1. ต้องสอบถามบุคคลที่อยู่ใกล้รถเพื่อทราบเบาะแสของคนร้าย
2. แจ้งความต่อตำรวจที่ใกล้ที่สุดด้วยวาจาโดยเร็วที่สุด
3. โทรศัพท์แจ้งตำรวจ
4. ต้องบอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถให้ถูกต้องและรวดเร็ว
5. ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ
6. เมื่อแจ้งความแล้ว ขอคัดสำเนาการแจ้งความจากตำรวจไว้เป็นหลักฐาน *** หากรถที่เราจอดอยู่ ไม่เป็นที่ลับตาคนเกินไป ส่วนมากคนที่อยู่บริเวณใกล้ที่จอดรถอยู่มักจะมีคนรู้เห็น สิ่งแรก ต้องตั้งสติให้ดีเสียก่อนเดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งไปก่อนที่จะทันแจ้งความ จากนั้นเราก็รีบสอบถามคนที่อยู่บริเวณนั้นให้ได้ความว่า เห็นคนร้ายรูปร่าง ลักษณะ ตำหนิ รูปพรรณมาเอารถเราไปอย่างไรหรือไม่ และรถนั้นคนร้ายได้ขับไปในทางใด นานเท่าไรแล้ว เมื่อได้ข้อมูลแล้วให้รีบจดชื่อ ที่อยู่ของพยานคนที่บอกเราไว้ให้ดี ถ้าแจ้งตำรวจให้เร็วที่สุดเพียงใด โอกาสที่จะได้รถคืนก็มีมากที่สุดเท่านั้น เพราะตำรวจมีโอกาสที่จะสกัดจับคนร้ายได้รวดเร็วและทันท่วงที
รายละเอียดตำหนิ รูปพรรณเกี่ยวกับรถของเรานั้น เราจะต้องจดไว้ประจำตัวตลอดเวลา เพื่อนำออกมาใช้ในยามฉุกเฉิน
การไปแจ้งความที่สถานีตำรวจนั้น จะต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจที่รถหายในเขตอำนาจของสถานีตำรวจนั้นๆ และจะต้องนำหลักฐานต่างๆเกี่ยวกับตัวเองและรถไปด้วย
การแจ้งความนั้นควรที่จะให้รายละเอียดอย่างดีที่สุดแก่ตำรวจ และอย่าลืมว่าหากท่านได้จดชื่อ-ที่อยู่ของพยานที่รู้เห็นเหตุการณ์ ก็ให้รายละเอียดนั้นแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
คุณมีวิธีป้องการรถอย่างไรนอกจาก ล๊อคเกียร์ ล๊อคพวงมาลัย สัญญาณกันขโมย GPS หรือ PIMM
***
www.safetybypimm.com ***
Contact: Kittiya Safetybypimm
Call now: 02-715-9989